เกาะพีพีในวันที่ไม่มีนักท่องเที่ยว ช่วงนี้เป็นปีทองของการเที่ยวเมืองไทย เกาะพีพีที่เคยเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวเหลือเพียงร้านค้าที่ปิดไป 80% ทุกอย่างดูเงียบเหงาไม่คึกครื้นเหมือนเคย แต่เมื่อเสียสิ่งที่เคยชินกลับได้สิ่งที่สวยงามมาแทนที่ เกาะพีพีในช่วง new normal ทะเลสวยมากกกกกก น้ำใส คนน้อย เรือน้อย เที่ยวได้สะดวก จากเคยเที่ยวเกาะพีพีแบบเช้าเย็นกลับแล้วเจอคนเยอะเหมือนหัวเข็มหมุด ได้อยู่บนเกาะแค่ไม่กี่ชั่วโมง ส้มปอยแนะนำให้มานอนค้างคืนบนเกาะเกือบร้าง เดินเล่นริมทะเลให้เต็มอิ่ม อาบแดด เล่นน้ำ พักผ่อน ใช้ชีวิตติดเกาะแบบ new normal กันค่ะ


เกาะพีพีอยู่ในพื้นที่จ.กระบี่ แต่คนไทยและคนต่างชาติส่วนใหญ่เข้าใจว่าเกาะพีพีเป็นพื้นที่ของจ.ภูก็ต แต่ทั้งนี้ืทั้งนั้นสามารถเดินทางมาได้ทั้งจากกระบี่และภูเก็ตค่ะ พี่กัปตันเรือบอกว่าเดินทางจากกระบี่จะเร็วกว่าหน่อยด้วยระยะทาง ร่องน้ำ และทิศทางลม ที่สามารถทำให้เรือสามารถวิ่งได้เร็วกว่าค่ะ ทริปนี้ส้มปอยออกเดินทางจากกระบี่ จองตั๋วเครื่องบินผ่าน Traveloka แอพเดิมเลยค่ะ ตอนนี้นอกจากจะจองง่ายสะดวกแล้ว ยังมีฟังก์ชันใหม่ Price Aleartsให้เราได้ตั๋วราคาถูก ด้วยเทคนิคการจองตั๋วเครื่องบินสุดคุ้มแบบมือโปร ทำง่ายมากแต่ได้ตั๋วที่ถูกใจที่สุดเลยค่ะ เพียงแจ้งเตือนราคาตั๋วเครื่องบินที่เราตั้งงบไว้ได้ ระบุวันที่ ระบุราคา เมื่อมีตั๋วเครื่องบินตามข้อกำหนดที่ตั้งค่าไว้แอพก็จะแจ้งเตือนเราทันที !! ได้ตั๋วที่ราคาถูกใจ จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกคลิกเลยค่ะ

การเดินทางมาเกาะพีพีก็ถือว่าเดินทางได้ง่ายมากมากสำหรับเกาะกลางทะเล ส้มปอยสรุปวิธีการเดินทางให้ดังนี้ค่ะ
1.กรณีเดินทางด้วยเครื่องบิน กระบี่มีเส้นทางบินจาก กรุงเทพ- กระบี่ / เชียงใหม่ – กระบี่ ที่มีให้บริการประจำตอนนี้ อย่าลืมใช้ฟังก์ชัน Price Aleart ของ Traveloka นะคะ จะได้จองตั๋วเครื่องบินแบบมือโปร ได้ตั๋วราคาถูกที่สุดในวันที่เราต้องการเดินทาง กดทิ้งเอาไว้เลยค่ะ เมื่อตั๋วลดราคาลงก็จะมี Notification แจ้งเตือนจากแอพเลยไม่ต้องเสียเวลานั่งเฝ้าราคา อ่านรายละเอียด Traveloka Price Aleart เพิ่มเติมคลิกเลยค่ะ

จากสนามบินกระบี่ เราสามารถนั่งรถตู้สนามบิน ราคา 100 บาทไปลงท่าเรือได้เลยค่ะ การเดินทางไปเกาะพีพีสามารถเดินทางได้จากหลายท่าเรือ ท่าเรือที่สะดวกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวให้เลือกท่าเรือมาริน่าค่ะ ซึ่งท่าเรือมาริน่าจะตั้งอยู่กลางเมืองกระบี่ มีร้านอาหารให้เรานั่งรอลงเรือหลายร้าน และบรรยากาศติดแม่น้ำ ถ้ามีเวลาเหลือก็สามารถเดินเล่นรอได้ไม่เบื่อค่ะ
2.กรณีเดินทางด้วยรถบัส จากบขส.กระบี่ สามารถเดินทางไปท่าเรือด้วยรถแดงประจำทาง ราคาประมาณ 20 บาท หรือนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปก็ได้ค่ะ สำหรับพี่วินสอบถามราคาก่อนใช้บริการนะคะ
แต่กรณีที่เดินทางกันหลายคน และมีเวลาเหลือเยอะก่อนเรือจะออก ส้มปอยแนะนำให้เช่ารถขับเที่ยวเองก่อน หรือเช่ารถพร้อมคนขับ เช่ารถขับเที่ยวกระบี่ จองรถเช่าเที่ยวกระบี่ คลิกที่นี่เลยค่ะ !! กระบี่มีที่เที่ยวบนบนอีกหลากหลายที่ที่สวยสวย มีเวลาจะขับรถเที่ยวชมหรือตระเวนกินก่อนก็ฟินแน่นอนค่ะ





ส้มปอยเคยมากระบี่หลายครั้งรอบนี้เลยไม่ได้แวะเที่ยวในเมืองมุ่งเป้าตรงไปที่เกาะพีพีเลยค่ะ มาถึงก่อนเวลานิดหน่อยก็แวะกินอาหารร้านพี่ดำธารา ใกล้กับท่าเรือมาริน่า และซื้อขนมตุนจาก 7-11 ที่ท่าเรือ ( บนเกาะพีพีราคาจะมี +++ เพิ่มหน่อยค่ะ ถ้าอยากได้ขนมอะไรแนะนำให้ซื้อไปจากท่าเรือค่ะ ) ท้องอิ่มก็ถึงเวลาเดินทางไปเที่ยวเกาะพีพีกันเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-60 นาที โดยเรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรือมาริน่า นั่งเล่นๆเพลินๆก็ถึงแล้วค่ะ เกาะพีพี เกาะที่ชาวต่างชาติตั้งเป้าว่าต้องมาให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต !!
( เรือสำหรับเดินทางไปเกาะพีพีมีทั้งเรือใหญ่และเรือสปีดโบ๊ทค่ะ สามารถสอบถามรายละเอียดค่าเรือ และเวลาเดินเรือได้ที่ >> line id : @phiphitours มีบริการจำหน่ายตั๋วเรือและทัวร์กระบี่ทุกประเภทค่ะ )
ส้มปอยเลือกพักที่หาดยาว ( Long Beach) จะเป็นหาดที่ไกลจากพื้นที่หลักของเกาะพีพี ท่าเรือของเกาะพีพีคือท่าเรือต้นไทร บริเวณจะเป็นย่านหลักที่มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และร้านค้าจำนวนมาก แต่ทริปนี้อยากพักผ่อนเงียบๆกับหาดส่วนตัว เลยเลือกพักที่ Blue Sky ที่พักสีขาวน้ำเงินตัดกับน้ำทะเล ติดริมทะเลที่โคตรสงบ !!




ถึงจะไกลจากย่านตัวเมืองหลัก แต่ที่พักก็มีบริการเรือรับส่งให้เราวันละ 1 เที่ยวค่ะ สามารถแจงน้องๆได้เลยว่าแต่ละวันจะไปกี่โมง เราก็จะได้ทั้งกิจกรรมพักผ่อน และกิจกรรมทุกอย่างที่อยากทำค่ะ หน้าโรงแรมจะมีร้านอาหารที่ฝากท้องไว้ได้เลย สั่งแบบไหนได้ตามที่สั่งเป๊ะพี่เค้าปรับให้ได้หมด บรรยากาศดีด้วยค่ะ ช่วงเย็นลมเย็นสบายมาก ส้มปอยจองห้องพักตรงกับทางโรงแรมช่วงที่มีโปรโมชั่น ได้ห้องพัก 3 คืน + แถมฟรีเรือสปีดโบ๊ทไปกลับกระบี่ สำหรับ 2 ท่าน + เรือหางยาวรับส่งโรงแรม -ท่าเรือต้นไทนวันละ 1 เที่ยว ( ไป-กลับ) ในราคา 4,990 บาท ( เฉลี่ยนคนละ 2,495 บาท คุ้มมากค่ะ) มีแถมกิจกรร paddle board ฟรี 2 ชั่วโมงอีกด้วยค่ะ จองตรงกับโรงแรมได้เลยค่ะ เบอร์ 09-45805384 / 085-0608834 www.ppblueskyresort.com สอบถามโปรโมชันแต่ละช่วงกับทางโรงแรมอีกทีนะคะ สำหรับการพักบนเกาะจะต้องทำใจกับเรื่องน้ำหน่อยเพราะน้ำบนเกาะจะไม่ได้เป็นน้ำที่จืดสนิทจะมีความเค็มปนมาเสมอ ฮ่าๆ เตรียมน้ำเปล่าไปล้างหน้าแปรงฟันได้เลยค่ะ





เกาะพีพีเที่ยวไหนดี ?
หมู่เกาะพีพี มีหลายเกาะมากมากค่ะ คนส่วนใหญ่จะรู้จักแค่เกาะพีพี แต่จริงๆแล้วเกาะหลักที่พักกันนั้นชื่อว่า “เกาะพีพีดอน” เป็นเกาะใหญ่ใจกลางของหมู่เกาะพีพี ที่นี่มีพร้อมทุกอย่างทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของ บาร์ คาเฟ่ โรงพยาบาล โรงพัก ธนาคาร ตลอดจน 7-11 เป็นเกาะใหญ่และครบถ้วนมากมาก แม้ช่วงนี้จะได้รับพิษโควิท ทำให้นักท่องเที่ยวเบาบางและร้านค้า ร้านอาหารปิดให้บริการค่อนข้างเยอะ แต่เกาะพีพีก็ยิ่งคงเสน่ห์ความขึ้นทุกวัน


เราสามารถเช่าเหมาเรือหางยาวเที่ยวหมู่เกาะพีพีได้เลย โดยเส้นทางนำเที่ยวจะมีสองเส้นทางที่นิยมกันดังนี้ค่ะ
เส้นทางยอดนิยม >>> Pileh Lagoon / อ่าวโล๊ะซามะ / ถ้ำไวกิ้ง / อ่าวมาหยา /อ่าวลิง / ดำน้ำ เส้นทางนี้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ราคา 1,200 บาท ( ราคาสำหรับ 2 ท่านนะคะ กรณีมากน้อยกว่านั้นก็สอบถามพี่พี่คนขับเรือได้เลยค่ะ)
เส้นทางสำหรับคนชอบหาดและดำน้ำ >>> เกาะไผ่ เส้นทางนี้จะเดินทางค่อนข้างไกล แต่เหมาะสำหรับคนที่ชอบหาดทรายขาวๆ น้ำใสใส และการดำน้ำ เพราะเกาะไผ่ได้ชื่อว่าดงปะการังแสนไร่ ทริปหางยาวครึ่งวันประมาณ 3,000 บาทค่ะ


โควิทได้รับผลกระทบกันเยอะไปเที่ยวก็อยากให้กระจายรายไดให้ชาวบ้านกันค่ะ บนเกาะพีพีมีเรือหางยาวของชาวบ้านเยอะมาก ส้มปอยได้ใช้บริการเรือหางยาวของบังเสก ( บัง =พี่ชายในภาษาอิสลาม) บังใจดีมีเซอร์วิสมาย บริการเต็มที่ ช่วยคิดท่าโพส วนเรือให้จนกว่าจะพอใจ ช่วยพาไปดำน้ำบริการเต็มที่ แถมซื้อขนมมาเลี้ยงตอนเช้าอีก ใจดีเกินเรื่องมาก !! ก่อนโควิทบังขับเรืออยู่ที่ปากเมงจ.ตรัง พอโควิทเข้ามานักท่องเที่ยวที่ตรังร่อยหรอ เลยขับเรือหางยาวจากตรังมาที่เกาะพีพี ขับเรือมาาาาาาจริงจัง แอบตกใจเหมือนกันว่าขับเรือหางยาวมาได้ยังไง แต่บังบอกว่าที่นี่พอมีลูกค้าบ้างดีกว่าที่โน่นที่ไม่มีลูกค้าเลย ตอนนี้อาศัยนอนในเรือหางยาว อาบน้ำบนเรือใหญ่ที่ช่วยเหลือกัน รายได้ที่พอจะมีบ้างก็เลยอยู่ได้ อ่ะมาช่วยกันอุดหนุนบังได้เลย บังเสก เรือหางยาวเกาะพีพี 0916568340 โทรนัดบังได้เลยค่ะ ยืดหยุ่นวันได้ อากาศไม่ดีสลับเปลี่ยนวันออกเรือได้ แถมเป็นแอคติ้งโคชให้อีก วนเรือเท่าไหร่กี่รอบบังก็ไม่บ่น


ได้เรือกันแล้วก็ออกเที่ยวกันเลยค่ะ เรานัดบังเสกตั้งแต่เช้า 07.00 เพราะไม่อยากเจอคนเยอะ เป็นเรือลำที่สองในปิเล๊ะเลย ( ถ้าใครอยากสายหน่อยก็แนะนำให้ออกไม่เกิน 8 โมงค่ะ หลังจากนั้นเรือจากทัวร์จะเริ่มเข้ามาเยอะค่ะ)
ปิเล๊ะลากูน
ไฮไลท์ที่สวยที่สุดของทริปนี้คือปิเล๊ะ วันไหนที่อากาศดีปีเล๊ะจะสวยมากมาก วันที่ส้มปอยไปฟ้าครึ้มหน่อยเพราะพายุเพิ่งจะเข้าแต่ก็ยังสวยสงบ เพราะมีแค่เรือสองลำในลากูนนี้












ส้มปอยใช้เวลาอยู่ที่นี่นานที่สุด รอจนแดดลงมายิ่งแดดส่องลงมาเท่าไหร่ยิ่งสวยมากมากค่ะ ตรงนี้น้ำจะสวยมากมากแต่ไม่ค่อยมีปลาและปะการังเท่าไหร่นะคะ เล่นน้ำถ่ายรูปสวยสวยได้








หลังจากเต็มอิ่มกับปิเล๊ะลากูนมาแล้ว บังเสกก็ขับเรือพวกเราชมวิวรอบๆ ทั้งถ้ำไวกิ้ง อ่าวลิง อ่าวมาหยาซึ่งตอนนี้ยังไม่เปิดเกาะให้เข้า และมีแวะดำน้ำให้ที่อ่าวโล๊ะซะมะ จุดดำน้ำมีหลายจุดเลยสามารถคุยกับบังเสกได้เลยค่ะว่าอยากแวะเที่ยวชมจุดไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูระดับน้ำและคลื่นลมแต่ละวันอีกทีด้วยค่ะ








สำหรับการดูปะการัง จะต้องมีความสามารถในการ skin drive หน่อยนะคะจึงจะสามารถมองเห็น ที่พีพีจะไม่เห็นปะการังน้ำตื้นมากนัก ถ้าดำ skin drive ได้สักหน่อยจะได้เจอกะการังและปลาสวยสวยเลยค่ะ










3 ชั่วโมงของทริป ตอนแรกดูเหมือนจะน้อยนะคะแต่จริงๆแล้วเวลาโอเคเลยด้วยเดินทางไม่ไกล แต่ละจุดมีเวลาให้ถ่ายรูปให้เล่นนน้ำเต็มที่ เรายังมีเวลาเหลือ บังเสกเลยพาไปดำน้ำดูปลาฉลาม เค้าว่ากันว่าเป็นรังของปลาฉลามเลยอยู่บริเวณหาดยาว แถวๆที่พักนี่เลยค่ะ แต่ไปดำดูจริงๆแล้วปลาฉลามเยอะมากจริงๆค่ะ มีทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติชอบมาดำดูกันไม่ค่อยมีคนไทยมา ถ้ามีเวลาเหลือลองดูนะคะเห็นฉลามจริงๆแต่มาเร็วมากมาก ถ่ายรูปไม่ทัน ไม่น่ากลัวด้วยค่ะ บังเสกพาดำน้ำชี้ให้ดู และประกบตัวดูแลเราตลอด จบสามชั่วโมงกับบังเสกอย่างแฮปปี้




เที่ยวเช้าเที่ยงพัก บ่ายๆค่อยออกไปเดินเล่น












นอกจากการเที่ยวเกาะแล้วบนเกาะพีพียังมีที่ให้เช็คอินอีกหลายจุดเลยค่ะ และจุดที่พลาดไม่ได้เลยคือจุดชมวิวเกาะพีพี
จุดชมวิวเกาะพีพีทัวร์เราจะสามารถเห็นบรรยากาศมุมสูงของเกาะได้เห็นหาดทั้งสองด้าน ระยะทางเหมือนไม่ไกลแต่หอบ ฮ่าๆ สำหรับคนไม่ได้ออกกำลังกายเลยแบบเราขอบอกเลยว่าหอบแน่นอน การเดินแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกเป็นบรรใดชันชันหน่อย ผ่านจุดนี้ไปได้ชีวิตจะดีขึ้นมาก ผ่านบรรใดมาจะเจอจุดชมวิวที่ 1 จะเห็นวิวเป็นภาพแคบๆหน่อยแต่ถือว่าได้พักขาที่ดีเลยค่ะ จุดนี้จะมีเก็บค่าบริการ 20 บาท/คน นะคะ


ทางเดินจุดที่สองไม่ชันมากแล้วค่ะมีเนินเนินบ้างแต่ทางเดินเรียบเแ็นปูนซีเมนเดินไม่ยากและไม่หอบเท่าช่วงแรกแล้ว กลั้นใจเดินผ่านสวนมะม่วงหิมพานต์มาเราจะได้เจอวิวแบบพาโนรามา เก็นเกาะพีพีเต็มตา ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตกจะยิ่งสวยมากค่ะ ส่วนส้มปอยขึ้นไปวันที่ฟ้าไม่เป็นใจเลยขอแปะสายรุ้งในภาพมาปลอบใจความหอบของตัวเองแทนค่ะ ( รุ้งปลอมค่ะ รุ้งปลอมปลอบใจตัวเอง)








บรรยากาศชิลๆช่วงกระอาทิตย์ตกดินบนจุดชมวิว




กิจกรรมที่เหลือของเราจากการเที่ยวทะเลแล้วนั่นคือการนั่งเล่น พักผ่อนริมทะเลค่ะ อย่างที่บอกว่าเราพักที่หาดยาว คนที่พักบนเกาะพีพีน้อยอยู่แล้ว แต่คนที่พักบนหาดยาวน้อยกว่ามาก เลยได้เสมือนมีหาดส่วนตัว นอนเล่น อาบแดด หรือทำกิจกรรมทางน้ำได้เลยค่ะ






เที่ยวทะเลแบบนี้ต้องไม่ลืมครีมกันแดด!! เที่ยวทะเลต้องเลือกกันแดดที่กันน้ำด้วยนะคะ สำหรับกันแดดทาตัวให้แนะตัวหลอดน้ำเงินเลยค่ะ SPF 50 PA++ กันน้ำ ไม่เหนียว เหนอะหนะ กันแดดที่กันน้ำจะต้องทาเยอะๆหน่อยนะคะให้กันแดดซึมลงไปเยอะๆถึงจะป้องกันนน้ำได้ดี สำหรับกันแดดทาหน้าก็ควรจะใช้แยกกันเพราะคุณสมบัติแตกต่างกัน กันแดดสำคัญมากนอกจากป้องกันผิวไม่ให้แห้งกร้าน ฝ้า กระ จุดด่างดำ แล้วยังป้องกันสาเหตุของการเป็นมะเร็งผิวหนังในระยะยาวได้ด้วยค่ะ






วิวทะเลจากหน้าที่พักเลยค่ะ หาดยาวคนน้อยยยยยยยมากกกก น้ำใสกว่าฝั่งโล๊ะดาลัมอีกค่ะ หาดเป็นของเราทั้งหาดไม่ต้องแย่งกับใคร








เที่ยวบนเกาะพีพีกี่วันดี ?
เวลาอย่างน้อยที่แนะนำเลยคือ 3 วัน 2 คืนค่ะ แต่ทริปนี้ส้มปอยอยากพักผ่อนเยอะหน่อยเพราะคงหาโอกาสเที่ยวเกาะแบบสงบแบบปีนี้ได้ยาก เลยเป็นทริป 4 วัน 3 คืนค่ะ ถ้ามีเวลาไม่มากก็ก็ 3 วัน 2 คืนก็เที่ยวครบแล้วค่ะ
กินอะไรบนเกาะพีพี ?
ร้านอาหารบนเกาะพีพีมีเยอะค่ะ แต่ปิดไป 80% ถ้าเน้นเป็นอาหารจานเดียวทั่วไปหาทานได้ง่ายง่ายเลยค่ะ แต่ถ้าคาดหวังว่าอยากทานอาหารทะเล อาหารใต้ ร้านอาหารที่เปิดตอนนี้อาจจะมีขอจำกัดหน่อยสำหรับมื้อเที่ยง เพราะตอนเที่ยงร้านใหญ่ๆจะเปิดให้บริการกับกลุ่มทัวร์ ช่วงบ่ายก็จะปิดครัว และเปิดให้บริการอีกทีช่วงเย็นเลยค่ะ
ร้านร่มไม้
ห้องอาหารริมทะลในเครือโรงแรม มีทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง เมนูไม่เยอะมากแต่รสชาติโอเคเลย ส้มตำราคาเริ่มต้นแค่ 40 บาท ไก่ย่างไม้ละ 10 บาท ถูกมากค่ะเทียบกับคุณภาพและปริมาณที่ได้รับ คุ้มมาก ส้มตำมาในจานใบไม้ทีทางร้านผลิตเองอีกด้วย




เมนูอาหารไทยอื่นๆก็ไม่แพงเลยค่ะ เป็นขนาดทาน 2-3คน ขนาดกำลังดีทำให้สามารถสั่งได้หลายอย่าง ร้านอาหารริมทะเลเลยถ้าวันไหนอากาศดีลมเย็นก็ชิลมาก แต่เสียอย่างถ้าสั่งส้มตำจะมีแมลงวันตามมาบินรอบรอบตัวเราหน่อยค่ะ แต่โต๊ะอื่นที่ไม่ได้สั่งส้มตำไม่มีแมลงวันนะคะ อีกอย่างที่อร่อยมากมากคือน้ำมะพร้าวอร่อยมากกกกกกก!!












เมนูแนะนำ : ส้มตำ ไก่ย่าง แกงส้ม
โลเกชั่น : ริมหาดโล๊ะดาลัม บรรยากาศริมทะเล ร้านสงบคนไม่เยอะ ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติค่ะ
คะแนน : การบริการ 100 คะแนน พนักงานน่ารักเทคแคร์ดีมากค่ะ
ร้านชาวเกาะ












เมนูที่ชอบที่สุดค่ะ : ตำมะม่วงปูปลาร้า , ไก่ย่าง ไม่ค่อยได้กินเมนูอื่นเลยค่ะ เข้าไปสามรอบของหมดทั้งสามรอบเลย !! ช่วงเที่ยงรับแขกทัวร์ บ่ายปิดครัวของหมดตลอดเลยไม่ได้กินเมนูแนะนำเขาสักที
ร้านกาแฟ PATCHAREE
ร้านกาแฟอร่อยบนเกาะหาได้ที่นี่ค่ะ กาแฟเปรียวนิดๆรสชาติละมุลๆ ครัวซองก็อร่อยราคาไม่แพงด้วย ของอร่อยๆมักแลกมากับคนเยอะ ++ ถ้าอยากเลี่ยงคนก็ไปก่อน 11.30 และช่วงหลังบ่ายสาม เพราะช่วงเที่ยงๆนักท่องเที่ยววันเดย์ทริปที่มากับทัวร์จะมาแวะที่นี่คนแน่นร้านเลยค่ะ








The Mange Garden
ร้านคาเฟ่ร้านเดียวที่มีแอร์ที่หาเจอ เด่นเรื่องเมนูมะม่วงสำหรับคนที่ชอบมะม่วงต้องมาแวะเลยค่ะ มะม่วงปั่น และเมนูขนมเกี่ยวกับมะม่วงทุกเมนู เป็นร้านที่ได้รับรางวัลจาก Sea Trip จากจีน ( คนจีนชอบมะม่วงมากมาก) ส้มปอยลองทานมะม่วงปั่นรสชาติโอเคค่ะ แต่ก็ไม่ได้ว๊าวมาก ร้านสวย แอร์เย็น นั่งเล่นได้เพลินๆช่วงแดดร้อนระอุ










เต็มอิ่มกับเกาะพีพี ยังมีกิจกรรมอีกมากมายบนเกาะให้เลือกเลยค่ะ ไปเที่ยวไทยอุดหนุนการท่องเที่ยวไทยแบบยั่งยืนอย่าลืมดูแลตัวแอง ใส่แมส ล้างมือ และตรวจสอบตัวเองอย่างสม่ำเสมอนะคะ ทริปหน้าจะเที่ยวไหนก็อย่าลืมตั้งค่า Price Alearts เทคนิคการจองตั๋วเครื่องบินสุดคุ้มแบบมือโปร ได้ตั๋วที่ราคาถูกใจ จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกคลิกเลยค่ะ เจอกันทริปหน้าค่ะ 🙂
Leave a Reply