Jiuzhaigou | ใบไม้เปลี่ยนสี จิ่วจ้ายโกว ( ฉบับ แบกเป้เที่ยว )

หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าเจอรักแรกพบ จนได้ฉายาว่าคือดินแดนแห่งเทพนิยาย เราขอให้คำนายามที่นี่ว่า #สวยเหี้ยๆ สวยจนไม่สามารถอธิบายได้ออกมาเป็นคำพูด แต่อยากให้ชมภาพจิ่วจ้ายโกวให้ชัดๆ สวยติดตา ละมุนจิตใจ เป็นสถานที่ที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุดตั้งแต่พบเจอมาในชีวิตนี้ มันไม่ได้เปลี่ยนสีแค่ต้นเดียว สิบต้น ยี่สิบต้น ร้อยต้น แต่เป็นใบไม้เปลี่ยนสีเป็นพันเป็นหมื่นต้น

ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนแห่งเทพนิยาย  ที่ไม่ได้ขายฝัน
ชั้นรู้ว่าพวกแกคงคิดว่ามันดูแก่แก่ถูกแมะ มีแต่อาม่า อากงเค้าไปกัน วัยรุ่นคูลคูลแบบเราไม่ไปหรอก แต่เดี๋ยว เราอยากให้พวกเธอเช็คก่อน เปิดดูภาพสักนิด แล้วจะได้ไม่ต้องสงสัยว่าอาม่าไปทำไมกันนักหนา  ที่นี่แหละคือเส้นทางใหม่ที่เหล่าวัยรุ่นไทยต้องไปลุยในปีหน้า จิ่วจ้ายโกวเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี 2017 ตอนนี้เปิดให้เข้าแล้วแต่จำกัดการเข้าชมอยู่จนถึงปี มกราคม 2019 ถือว่าเป็นช่วงพักฟื้นอุทธยาน เราคาดว่าจิ่วจ้ายโกวจะกลับมาใหม่แบบสดมาก เพราะปีนี้ถึงจะอนุญาติให้เข้าชมได้แต่ก็ให้เข้าชมได้แค่วันละ 2,000 คนเท่านั้น  ( อัพเดทวันที่ 1 กค. 2018 จิ่วจ้ายโกวปิดอีกครั้งเนื่องจากดินสไลด์ลงมา ตอนนี้อยู่ในช่วงปรับสภาพเพื่อเช็คความปลอดภัยอีกครั้ง แล้วจะประกาศเปิดให้ท่องเที่ยวอีกครั้งค่ะ ) รอวันเธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วไปเที่ยวกัน
Jiuzhaigou - China-IMG_9237Jiuzhaigou - China-IMG_8407-2
จิ่วจ้ายโกว เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ A5 ของจีน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี 2535 ได้รับการกล่าวขานมากมายในความสวยงาม ทั้งชื่อ สวรรค์บนดิน อุทธยานธารสวรรค์  ถึงขนาดที่บอกว่า
มาเยือนจิ่วจ้ายโกวแล้วจะไม่กลับไปมองน้ำที่ไหนอีก !! ( อันนี้จริง น้ำฟ้าใส พร้อมเงาสะท้อนจากภูเขาเปลี่ยนสีมันติดตาเวอร์ อยากจะแงะออกมาจากตาแล้วเก็บเอาไว้ดูเวลาเซ็งจิต)
Jiuzhaigou - China-IMG_8409-2
Jiuzhaigou - China-IMG_9192Jiuzhaigou - China-IMG_9232Jiuzhaigou - China-IMG_8956

การเตรียมตัวเบื้องต้นก่อนไปจีน  (แพลนการเดินทางอย่างละเอียด inbox ไปขอได้ที่เพจ Goanywhere )
    จีนเนี่ยจะว่ายากก็ยาก จะว่าไม่ยากก็แต่ยาก แต่ตอนนี้เราว่าจีนเที่ยวไม่ยากเลยแม้จะพูดจีนไม่ได้ เราเคยไปจีนมาสองครั้ง ครั้งแรกไปแชงกรีล่า เต๋อชิง เมื่อสมัยสาวๆ7-8 ปีก่อน ( ตอนนี้ก็สาวนะยะ อย่าเข้าใจผิด )  จีนยากกว่านี้มาก ตอนนั้นเราซื้อตั๋วรถทัวร์ได้ตั๋วรถไฟอ่ะคิดดู การสื่อสารในจีนแม่งโคตรสนุก แต่เดี๋ยวนี้เที่ยวจีนไม่ได้ยากเลย มีสิ่งอำนวยความสะดวก บ้านเมืองสะอาด ( ไม่นับห้องน้ำ ) เพราะฉะนั้นไปจีนก็ไม่มีอะไรต้องเตรียมตัวมากเท่าไหร่ละ และจีนไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย เกินหวังทุกที สายธรรมชาติต้องบวกจีนเข้าไปในแพลนไปเถอะ อย่าไปกลัวห้องน้ำมัน

  • วีซ่า
    ไปจีนต้องใช้วีซ่า การขอวีซ่าจีนทำไม่ยาก เดินทางครั้งเดียว 1,500 บาท เดินทางสองครั้งภายใน 2 เดือน 2,500 บาทจ้า ( รีวิววีซ่าจีนแบบละเอียด อ่านแล้วลอกตามได้เลย >> คลิกเลยจ้ะ
  • ห้องน้ำ
    เรื่องที่ต้องห่วงมากที่สุดตอนไปจีนคือ ห้องน้ำ ชั้นรู้พวกเธอไม่ค่อยสบายใจ ไม่ค่อยสบายจมูก เอาจริงห้องน้ำในเมืองน่ะโอเคนะ แต่ห้องน้ำแบบระหว่างทาง หรือเมืองบ้านนอกหน่อยๆนี่บอกเลย เละ เละ และโคตรเละ ผสมปนเปกันทุกอย่างที่มี มวลสารรวมอยู่ในนั้น ( ขี้เอย เยี่ยวเอย ทิชชูเอย ผ้าอนามัยเอย )ประดับประดาเหมือนมาประติมากรรมมาตั้งโชว์เลยเมิงข๋า อันนี้ทำใจนะ สิ่งที่ต้องทำคือ น้ำยาหม่องป้ายใต้จมูก ปิดด้วยแมส 1 ชั้น แล้วเอาผ้าพันคอพันทับอีกสักสองรอบ กำทิชชูเปียกให้แน่น สูดหายใจแรงแรงแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเลย เน้นดำเนินการไวแบบ 30 วินาทีข่าวแล้วรีบออกมา วิวสวยสวยแบบโคตรคุ้มรออยู่นะเว้ย อย่าไปกลัว แค่น้ำตาไหลนิดหน่อย ก็เอาผ้ามาซับน้ำตาที่หางตา
  • โรงแรม
    เฉิงตูโรงแรมเยอะมาก แต่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีต้องจองล่วงหน้าหน่อยเพราะเต็มเร็ว ที่นี่เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ทั้งคนจีน ทั้งต่างชาติกรูกันเข้ามาเที่ยว จองก่อนก็จะได้ที่พักดีดีติดทางเข้าจะได้ไม่ต้องเดินไกลมากค่ะ เราจองล่วงหน้าผ่าน  shopback  แล้วเลือกช่องทางจองปกติได้เลยค่ะ เช่น booking.com | Agoda | Trip.com  | Expedia  แค่กดลิงค์ผ่าน shopback ก่อนจะได้รับสิทธิ์เงินคืน  6 -12% แล้วแต่โปรโมชั่นแต่ละช่วงค่ะ คุ้มมากค่ะ เงินคืนโอนเข้าบัญชีหลังทางเดินทาง ~75 วัน ได้เงินสดเลยค่ะ
  • อากาศ
    ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี   คือช่วงเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่สวยที่สุด ในรีวิวนี้ก็จะได้ชมถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเช่นกัน ข้อเสียคือสวยมากคนก็เยอะมาก บริษัททัวร์ก็นิยมจัดทัวร์มาจิ่วจ้ายโกวกันเยอะสุด นักท่องเที่ยวเยอะที่สุดและราคาทัวร์แพงที่สุด ช่วงแนะนำคือปลายตุลาคมจะเป็นช่วงพีคที่สุด อยากลาน้อยๆก็แนะนำช่วงวันปิยะ ติดวันหยุดยาวพอดี และใบไม้ก็สวยมากพอดีเช่นกัน ถ้าเลยตุลาคมไปแล้วมีโอกาสเจอหิมะตกสูง 10-30 ตุลาคมเป็นช่วงที่กำลังพอเหมาะ
    ฤดูหนาว  ช่วงนี้จะเป็นช่วงหิมะและธารน้ำเข็ง  ช่วงแนะนำคือ ปีใหม่-เดือนมีนาคม ธารน้ำแข็งกำลังสวย ราคาทัวร์ก็จะถูกที่สุดด้วยเพราะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยว เพราะมันหนาวมาก ช่วงที่พีคสุดคือช่วงตรุษจีนหนาวสุดแต่ก็สวยสุดสุด น้ำตกเป็นน้ำแข็ง อย่างสวย ( นี่ก็อยากไปช่วงนี้มากเหมือนกัน)
    ฤดูร้อน พฤษภาคม-เดือนสิงหาคม น้ำในทะเลสาบสีฟ้าตัดกับผืนป่าสีเขียว  ช่วงนี้นักท่องเที่ยวน้อย ไม่ได้พีคอะไรมาก แต่ก็คงสวยแบบกรีนๆ เขียวๆ ฟ้าใสใส อากาศแบบเย็นสบายเดินเพลินๆ
  • อาหาร
    เราไม่มีปัญหากับอาหารจีน ค่อนข้างคุ้นเคย คล้ายๆอาหารไทยด้วยซ้ำ แค่อาจจะเลี่ยนเพราะน้ำมันเยอะ แต่ก็มีอาหารหลากหลายให้เลือกทั้งเนื้อจามรีกระทะ ชาบูหมาล่า หรืออาหารจีนทั่วไป และทุกร้านไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ ใช้ google translate สแกนแล้วแปลเอา เราสั่งหมูมาจานนึง ที่ google แปลว่า คอลลาเจนหมู เห็นชื่อมันน่ารักดีอยากรู้ว่ามันคืออะไร สรุปมันคือ หูหมูเย็นๆนั่นเอง โคตรไม่อร่อย ฮ่าาา

    Jiuzhaigou - China-IMG_9117
    จามรีกระทะร้อน
    Jiuzhaigou - China-IMG_9707
    ชาบูหมาล่านิ้วชี้ ชี้เลยอร่อยทุกอย่าง น้ำมันเยอะทุกอย่าง 🙂

    ร้านอาหารนอกอุทธยานมีให้เลือกเยอะ ส่วนอาหารภายในอุทธยานอาหารหลักของเราคือมาม่า การกินมาม่าตอนอากาสเย็นๆนี่คือดีมาก สลับกับกับข้าวกล่องที่สามารถอุ่นร้อนได้ อันนี้สนุกมาก เหมือนเป็นเกมส์วิทยาศาสตร์ คนจีนกินกันเยอะ เราพยายามลอกเค้าตอนแรกทำผิดวิธีแหละข้าวเลยไม่ค่อยสุกเท่าไหร่ ตอนหลังทำเป็นแล้วกลายเป็นอาหารที่คู่ควรมาก อร่อย ( บางเมนู )

    Jiuzhaigou - China-IMG_9398
    มาม่ากู้ชีพ
    Jiuzhaigou - China-IMG_8353
    ข้าวกล่องวิทยาศาสตร์ มีหลายเมนู ซื้อจากข้างนอกเข้าไปจะราคาถูกกว่าและเมนูให้เลือกมากกว่าค่ะ

    Jiuzhaigou - China-IMG_8821
    ผลไม้สดเป็นของหวาน ผลไม้จีนอร่อยหมดลองได้
  • การเดินทาง และการจองตั๋ว
    จิ่วจ้ายโกว ยังไม่มีการบินตรงจากไทย เมืองที่ใกล้สุดคือมืองเฉิงตู แน่นอนทริปแบบนี้ควรจองข้ามปีไปเลย ช่วงพีคสุดคือช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี โรงแรม รถ และคนแน่นมาก การจองตั๋วข้ามปีช่วยให้ เราสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้ง่าย และประหยัดได้มากขึ้น ( แอบกระซิบว่าเราจอง Aia Asia โปร 0 บาท ได้ตั๋วมาราคา 3,500 บาทเองจ้ะ ถูกเหมือนบินไปพม่าแต่คุณค่าคือได้ไปมรดกโลกระดับ A5 เลยเด้อ )how to go to jiuzhaigou_rev.jpg
    นอกจากการบินตรงกรุงเทพ – เฉิงตูเลย มีอีกโปรแกรมที่น่าสนใจคือเมืองฉงชิ่ง กับการเที่ยวหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ ( อู่หลง ฉงชิ่ง ) ถ้าอยากเพิ่มแพลนเข้าไปในทริปเดียวเลยก็ได้ เพราะจาก เฉิงตู – ฉงชิ่ง ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงแค่แค่ 2.5 ชั่วโมงเท่านั้น รถไฟความเร็วสูงของจีนดีมาก สะอาดคุณภาพเท่าเท่าญี่ปุ่นเลย
    Chengdu map
    สรุปสั้นๆอีกทีว่า
    1.ถ้าอยากไปเที่ยวแค่จิ่วจ้ายโกว หวงหลวง ให้บินลงเฉิงตู ทั้งไปและกลับ
    2.ถ้าอยากเที่ยวหลุมฟ้าด้วยก็ให้บินลงเฉิงตู แล้วบินกลับทางฉงชิ่ง ก็จะได้ควบทริปได้เลยค่ะ

พิเศษจองที่พัก ตั๋วเครื่องบินผ่าน shopback  แล้วเลือกช่องทางจองปกติได้เลยค่ะ เช่น booking.com | Agoda | Trip.com  | Airasia | Lazada | Expedia | Klook แค่กดลิงค์ผ่าน shopback ก่อนจะได้รับสิทธิ์เงินคืน 1-12% แล้วแต่โปรโมชั่นแต่ละช่วงค่ะ คุ้มมากค่ะ เงินคืนโอนเข้าบัญชีหลังทางเดินทาง ~75 วัน ได้เงินสดเลยค่ะ

ในเมืองเฉิงตูก็มีที่เที่ยวให้พักผ่อน ชอปปิ้งกันได้สบาย เค้าเจริญแล้ว !! ตลาดของกินเด็ดมาก ลองเลย เรามีเวลาเที่ยวในเมืองแค่ช่วงเย็นๆ แต่เป็นช่วงสั้นสั้นที่เอ็นจอยอีทติ้ง เอ็นจอยชอปปิ้งมาก เหมือนเดินสยาม แต่เป็นสยามแบบจีนๆ  มีทั้งน้ำมะม่วงฉันยุ่งมาก รองเท้ายี่ห้อแปลกๆที่คล้ายของจริงเหลือเกิน เปิดชอปกันใหญ่โต เดินเอามันส์อ่ะ ความโคตรจีนแบบนี้มันโคตรสนุก
Jiuzhaigou - China-IMG_8288.JPG
Jiuzhaigou - China-IMG_8223

เริ่มต้นเดินทางไปจิ่วจ้ายโกวกัน จากเฉิงตู มี 2 วิธีการนั่งเครื่องบินหรือรถบัส เราเลือกรถบัสฮ่า ช้าแต่ถูกกว่าแถมได้ชมวิวไปเรื่อยๆ เป็นจีนแบบเต็มตัว ความยากไม่ใช่การนั่งรถ 9 ชั่วโมง แต่เป็นเรื่องห้องน้ำมากกว่า ห้องน้ำระหว่างทางกลิ่นแรงดีใช้ได้เลย รถจะแวะเรื่อยๆให้เข้าห้องน้ำ และทานอาหาร จุดนี้อาหารญี่ปุ่น
อย่างมาม่า และมันเผาดูจะตอบโจทย์ดีสุดเลย อย่างอื่นลองแล้วเลี่ยน น้ำมันเยอะไปหน่อย

Jiuzhaigou - China-IMG_9747
9 ชั่วโมงบนรถบัส กับวิวแบบนี้ตลอดทาง ก็คู่ควรนะ ( ค่ารถบัส + รวมค่าบริการจอง 163 CNY/คน )

รถบัสจากเฉิงตู – จิ่วจ้ายโกว เราอีเมลไปให้โรงแรมของตั๋วให้ล่วงหน้า เนื่องจากเป็นช่วงพีคซีซันเลยไม่อยากเสี่ยงไม่มีตั๋วไป (ค่ารถบัส + รวมค่าบริการจอง 163 CNY/คน ) ขึ้นรถบัสที่ Xinnanmen Bus Station เราจองโรงแรม Chengdu Mrs Panda Hostel ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถบัส ตอนเช้าจะได้เดินไปขึ้นรถได้สะดวก และเจ้าหน้าที่ดูแลดีมาก พูดภาษาอังกฤษได้ ห้องสะอาด บริการดี ถ้าไม่มีโรงแรมในใจก็แนะนำเลยค่ะ

Jiuzhaigou - China-IMG_8329
หมาล่าเนื้อควาย หอมมาก แต่ไม่ได้ลอง ใครไปลองแล้วบอกหน่อย ดูอร่อยแต่ไม่อยากแดก
Jiuzhaigou - China-IMG_8325
แผงขายเนื้อควาย โคตรคูล

เที่ยวจิ่วจ้ายโกว กี่วันดี ?
ด้วยพื้นที่อุทธยานกว้างใหญ่มาก ดังนั้นการเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่จะเที่ยวกัน 2-3 วัน ( ไม่แนะนำให้เที่ยววันเดียวเลยค่ะ จะเร่งเกินไป )  ส่วนตัวเราแนะนำให้เที่ยว 2 วันค่ะ กำลังดี  จิ่วจ้ายโกวจะเป็นเส้นทางการเที่ยวแบบรูปตัว Y ดังนั้นควรมีเวลาอย่างน้อย 5 วัน

วันที่ 1    BKK – Chengdu
วันที่ 2    นั่งรถบัสจาก Chengdu – Jiuzhaigou
วันที่ 3    Jiuzhaigou ฝั่งขวา
วันที่ 4    Jiuzhaigou  ฝั่งซ้ายและข้างล่าง
วันที่ 5    หวงหลง
วันที่ 6    Jiuzhaigou  – Chengdu / Chengdu – BKK
*** ถ้ามีเวลาเพิ่มก็เที่ยวเฉิงตูชิลๆสักวัน ถ้ามีเวลามากกว่านั้นจะแวะไปเที่ยวฉงชิ่งต่อก็ได้ค่ะ

วันที่ 1   เที่ยวทางฝั่งขวา  เราชอบฝั่งขวามากกว่า เลยอยากให้เที่ยวฝั่งด้านนี้ก่อน แล้วเผื่อวันที่สองอยากเก็บตรงไหนเพิ่มเติม ก็จะได้มาซ่อมได้ เราชอบทะเลสาบ 5 สีมากกกกกกกก สองวันแวะไปถึงสี่รอบ เดินไปเดินมาก็ยังอยากไปอีก อยากไปอีกเลยค่ะ
วันที่ 2  เที่ยวฝั่งซ้ายและพื้นที่ข้างล่าง ส่วนใหญ่จะลงข้างล่างและเที่ยวข้างล่างก่อน เราอยากให้สวนกระแสคน ให้นั่งรถให้ไปถึงสุดทางก่อน แล้วค่อยนั่งรถลงมาเรื่อยๆ จะได้ไม่เจอคนเยอะมาก ( แต่ยังไงคนก็เยอะอยู่ดีแหละ )
** หมายเหตุ ถ้ามีเวลามากพอ จะเที่ยวให้เต็มที่ก็สามวันได้ค่ะ ฝั่งขวา 1 วัน / ฝั่งซ้าย  1 วัน / ข้างล่าง 1 วัน จริงๆก็อยากทำแบบนี้แต่ค่าเข้าโหดเหลือเกิน เที่ยว 2 วันก็ไม่แย่ค่ะ โอเคกำลังดี

Map - Jiuzhaigou-ChinaIMG_map

ที่เที่ยว จิ่วจ้ายโกว
เหมือนที่เดียวแต่มีสถานที่แวะให้เดินเที่ยวเยอะมาก หลักๆเป็นทะเลสาบ น้ำตก ภูเขา ธรรมชาติ สลับกันฝั่งขวาเป็นฝั่งที่เราชอบมากที่สุด และเดอะเบสของจิ่วจ้ายโกวขอยกให้ทะเลสาบห้าสี ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า เราตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อไปต่อคิวซื้อตั๋วเข้าจิ่วจ้ายโกว  ( ค่าตั๋ว 220 CNY + ค่ารถบัสอุทธยาน 90 CNY ราคา/วัน/คน)  ย้ำว่าไม่ต้องตกใจเพราะการแซงคิว การกรูกันแย่งซื้อตั๋ว การโดนเหวี่ยงสุดแรงเนื่องจากแย่งเก้าอี้บนรถ เป็นเรื่องปกติ อนิจจังค่ะ ถือว่าไปเล่นเกมส์โชว์

1384342536-Map-o
แผนที่จิ่วโจ้โกวอย่างละเอียด รถบัสไม่ได้จอดทุกจุดค่ะ เดินดูวิวเอาสะดวกมากกว่า 🙂 

จิ่วจ้ายโกว – ด้านขวา

1. The virgin forest
บนสุดทางด้านขวา มีที่ให้เดินป่าด้วยแต่เราไม่ได้เดิน ที่นี่คนไม่เยอะมาก เป็นภูเขาใหญ่เราว่ามีความคล้าย Yosemite ในเมกา ( มโนแรงมาก) 
cover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -02.png
Jiuzhaigou - China-IMG_9019

2. Arrow bamboo lake & Arrow bamboo waterfall
   ส่วนใหญ่รถจะจอดให้ลงที่นี่ที่แรก ( แต่จริงๆบอกนายหัวขอลงก่อนที่ทะเลสาบดอกไม้ห้าสีก็ได้ค่ะ ) อันนี้เดินได้เรื่อยๆ เดินต่อยาวไปจนถึง panda lake ได้เลยjiuzhaigou-15.png

Jiuzhaigou - China-IMG_8727Jiuzhaigou - China-IMG_8728Jiuzhaigou - China-IMG_8763Jiuzhaigou - China-IMG_8829

3. Panda lake
   เค้าว่าเป็นทะเลสาบที่แพนด้ามากินน้ำ แต่เราไม่เจอง่ะ เป็นทะเลสาบใหญ่ที่เชื่อมต่อมากับภูเขาหลายลูกซ้อนทับกัน เป็นทางเดินริมเขาทำให้เห็นวิวรอบรอบได้ 180 องศาcover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -06

Jiuzhaigou - China-IMG_8834Jiuzhaigou - China-IMG_8859Jiuzhaigou - China-IMG_8870Jiuzhaigou - China-IMG_8867Jiuzhaigou - China-IMG_8887

4. Multicolor lake /  Five flower lake
เราชอบที่นี่มากที่สุด น้ำสีฟ้าแบบฟ้าโคตรๆ กับภูเขาเปลี่ยนสีทั้งภูเขา ควรไปที่นี่เป็นที่แรกเลย อากาศตอนเช้ามีหมอกอ่อนๆ และไม่มีคนมันดีย์มาก  รถบัสทางขวาส่วนใหญ่คนจะขึ้นไปบนสุดแล้วค่อยลงมา แต่สามารถบอกคนขับรถได้นะคะว่าอาแปะ นุ้งอยากลงตรงนี้ แปะก็จะจอดให้ แล้วพวกเธอจะเป็นชนกลุ่มแรกที่มาถึงที่นี้ มันจะดีมาก เดินวนให้สุด เดินไปเลยสองสามรอบเพราะเวลาทองมีอยู่แค่ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วมนุษย์ก็จะหลั่งไหลมา cover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -05
Jiuzhaigou - China-IMG_8458
พวกเธอจะพลาดจุดอื่นก็ได้ แต่ห้ามพลาดจุดนี้ ที่สุดของที่สุดเรามาที่นี่หลายรอบทั้งนั่งรถผิดวนมานี่ และตั้งใจมา ได้เจอที่นี่ทั้งเช้า เที่ยง เย็น ตอนที่สวยที่สุดคือตอนเช้า วันที่เราไปไม่ค่อยมีแดด สีของใบไม้ทั้งภูเขายังกระแทกตาขนาดนี้ ไม่รู้จะพูดให้ยาวทำไม เจ็บคอ ดูภาพเอาเถอะจ้ะJiuzhaigou - China-IMG_8446Jiuzhaigou - China-IMG_8366-3
Jiuzhaigou - China-IMG_8645Jiuzhaigou - China-IMG_9139Jiuzhaigou - China-IMG_9169
Jiuzhaigou - China-IMG_9255Jiuzhaigou - China-IMG_8417-2

Jiuzhaigou - China-IMG_9293
ช่วงสายๆ มนุษย์ทั่วโลกรวมตัวกันที่นี่แล้ว

มุมจากด้านบนฝั่งตรงข้ามเป็นอีกมุมที่สวยมาก ต้องเดินทางเดินไม่ขึ้นเขามาหน่อยนึง เป็นวิวมุมสูงที่ดีเลยห้ามพลาดมุมนี้เลย เดินขึ้นไปทางด้านบนเหนื่อยหน่อยแต่คุ้มมาก  ยิ่งตอนเช้าเช้าหมอกเอื่อยๆนี่ โอ้ยเมิง ตายข่ะ สวยตายไปเล้ย
Jiuzhaigou - China-IMG_8580

Jiuzhaigou - China-IMG_8599Jiuzhaigou - China-IMG_8600
5. Pearl Shoal 
     ในบรรดาน้ำตกทั้งหมดเราชอบน้ำตกที่นี่ที่สุด มันไม่ได้ใหญ่ที่สุดนะ แต่เป็นน้ำตกที่มฉากหลังเป็นภูเขาหิมะและใบไม้เปลี่ยนสี ดูเป็นน้ำตกที่ครบเครื่อง  ที่นี้จะเป็นจุดพักที่ใหญ่มาก เหมาะแก่การนั่งกินข้าว ชมวิว พักผ่อน หลบแดด พักขา หลังจากเดินมายาวยาว (ที่นี่ขอยกให้เป็นที่ที่สวยแต่ยาก นึกออกมั้ย กว่าจะเดินมาถึงคือไกลหน่อย )cover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -07

Jiuzhaigou - China-IMG_8910Jiuzhaigou - China-IMG_8946
เราไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไปยังภาพน้ำตกเลยจะสั่นๆไปหน่อยJiuzhaigou - China-IMG_8953Jiuzhaigou - China-IMG_8959Jiuzhaigou - China-IMG_8957

6. Mirror lake
ทะเลสาบกระจก เป็นทะเลสาบที่อยู่ตรงกลางของอุทธยาน เราไปที่นี่ช่วงบ่ายแล้ว เลยจะมีความย้อนแสงหน่อย ตอนนั่งรถผ่านตอนเช้าจะเห็น reflec เป็นกระจกชัดมากกว่านี้
cover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -miror lake
Jiuzhaigou - China-IMG_8997Jiuzhaigou - China-IMG_8989Jiuzhaigou - China-IMG_9002


จิ่วจ้ายโกว – ด้านซ้ายและด้านล่าง

1. The long lake
   อีกหนึ่งทะเลสาบที่เราชอบเป็นพิเศษ ซึ่งความจริงแล้วก็ชอบหมดทุกอัน แต่แค่บรรยากาศตรงนี้ถูกจริตมากหน่อยเท่านั้นเอง แนะนำให้ไปช่วงเช้าตรู่เลย เราไปสายนิดหน่อยเพราะนั่งรถหลง ( อีกแล้วฮ่า ) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่มากกก สมชื่อแหละ ใหญ่และยาวเลยข่าคุณcover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -Long lake

Jiuzhaigou - China-IMG_9322Jiuzhaigou - China-IMG_9319
Jiuzhaigou - China-IMG_9371Jiuzhaigou - China-IMG_9351Jiuzhaigou - China-IMG_9345
Jiuzhaigou - China-IMG_9321

2. Colorful Pond
     เดินต่อมาจาก long lake ได้เลย หรือจะนั่งรถลงมาก็ได้ ระหว่างทางจะเป็นป่าป่าหน่อย ถ้าอยากชิลๆก็เดินลงไป แต่ถ้าไม่อยากเดินก็นั่งรถไปได้ค่ะ ที่นี่เป็นทะเลสาบที่สีสวยที่สุดเป็น ทะเลสาบเล็กๆสีฟ้าเทอคอยซ์ สีสดมากเป็นเหมือนอัญมณีกลางป่าอ่ะเมิง ด้วยความที่มีพื้นที่เล็กมาก คนเลยแน่นมากเป็นพิเศษเช่นกัน กว่าจะเดินรอบทะเลสาบเนี่ย หมดแรงเลย cover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -10
Jiuzhaigou - China-IMG_9445.JPG

3. Zechawa village (หมู่บ้านทิเบต)
หมู่บ้านทิเบตมีร้านอาหาร ไว้สำหรับช้อปปิ้ง ซื้อของฝาก หรืออยากนั่งพักขาชิลๆก็มาแวะได้  ที่นี่เป็นป้ายรถป้ายใหญ่ รถบัสจะแวะจอดที่นี่เกือบทุกคัน เราแวะที่นี่แปปเดียว ไม่ได้เดินเข้าไปในหมู่บ้าน แต่ลองชิมแค่ถั่วตัดที่เค้ามาให้ชิมก็อร่อยดี cover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -09

Jiuzhaigou - China-IMG_9672.JPG

4. Nuorilang waterfall

cover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -08.png
Jiuzhaigou - China-IMG_9472

5. Rhinoceros lake
   ทะเลสาบแรด (ที่ไม่มีแร่ดแต่คนมาเที่ยวอ่ะแรด คนอ่านสวย #แบบนี้ก็ได้ว่ะ ) มาได้ด้วยการเดินหรือจะนั่งรถก็ได้  เป็นอีกที่ที่เราชอบมาก แต่มาถึงตอนเหนื่อยๆเพลียๆแล้วเลยขี้เกียจเดินมาก เราว่าจุดนี้ควรแวะ คุ้มค่าความสวยงาม ด้วยความที่ชอบภูเขา และน้ำอยู่ด้วยกัน นั่งสบายๆก็เพลินๆหายเมื่อยดี ไเราไปตอนบ่ายแล้วมีย้อนแสงบ้างเล็กน้อยดูด้วยตายังสวย แต่ถ่ายภาพจะมีการย้อนแสงบ้าง

cover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -14
Jiuzhaigou - China-IMG_9500Jiuzhaigou - China-IMG_9524

6. Shuzheng falls / Shuzheng lakes
ลงรถตรงป้ายหมู่บ้านทิเบตแล้วเดินมาฝั่งตรงข้าม เป็นทะเลสาบที่มองเห็นไดจากป้ายรถบัสเลย มีทางให้เดินเข้าไปชมใกล้ๆด้วย เดินไม่ไกลมาเราว่าคุ้มค่าในการเดิน ควรแวะถ้ามีเวลาพอ

cover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -12
Jiuzhaigou - China-IMG_9545Jiuzhaigou - China-IMG_9586Jiuzhaigou - China-IMG_9581Jiuzhaigou - China-IMG_9574Jiuzhaigou - China-IMG_9594Jiuzhaigou - China-IMG_9609Jiuzhaigou - China-IMG_9598
ข้างล่างยังมีอีกหลายอันแต่เราว่าสวยสู้ทางขวาไม่ได้ และบางอันก็ลืมๆไปบ้างว่าชื่ออะไร ฮ่า เต็มอิ่ม 2 วันในจิ่วจ้ายโกว สูดอากาศได้เต็มปอด ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงได้รับเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เพราะที่นี่เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ สมชื่อ อุทธยานธารสวรรค์


นอกจากจิ่วจ้ายโกว อีกที่ที่อยากแนะนำคือ  หวงหลง ที่อยากให้แวะไปเที่ยวกัน จริงๆถ้ามาจากเฉิงตูเราจะถึงหวงหลงก่อน แต่ก็ไม่อยากย้ายของมาก เลยตั้งฐานอยู่ที่จิ่วจ้ายโกวเป็นหลัก แล้วเที่ยวหวงหลงแบบวันเดย์ทริปเอา สำหรับทริปนี้ขอยกให้หวงหลงคือนางเอกของทริป  สามารถเดินทางไปหวงหลงได้ 2 วิธี
วิธีที่ 1 รถบัสประจำทาง แนะนำกรณีเดินทางคนเดียว
วิธีที่ 2 รถแท็กซี่แบบเหมาทั้งวัน เหมาะสำหรับเดินทาง 3-4 คน แนะนำวิธีนี้มากกว่าเพราะสามารถแวะถ่ายรูปตามข้างทางได้ตลอดเวลา ( ค่าเหมา Taxi 500 CNY / คัน)
cover - china -Jiuzhaigou - จิ่วไจ้โกว -04
อุทยานแห่งชาติหวงหลง” หรือ “มังกรเหลือง” ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงถึง 3,000-5,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่สูงอากาศบางหน่อย เวลาเดินต้องเดินช้าช้าไม่งั้นหายใจไม่ทัน จุดเด่นของหวงหลงคือทะเลสาบหลากสี” ที่ประกอบด้วยสระน้ำเล็กๆ จำนวนนับพันสระทับซ้อนกัน กลายเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีความสูงที่สุดในโลก และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ( ค่าเข้า 200 CNY/คน ค่าเคเบิลคาร์ 80 CNY/คน)
Jiuzhaigou - China-IMG_9939Jiuzhaigou - China-IMG_9820Jiuzhaigou - China-IMG_9816

Jiuzhaigou - China-IMG_9787
หวงหลงหนาวมาก ช่วงหิมะตกทางอาจจะปิดเดินทางไม่ได้ ควรเดินทางภายในเดือนตุลาคม

Jiuzhaigou - China-IMG_9755

Jiuzhaigou - China-IMG_9736

เห็นมั้ยว่าจีนอ่ะสวยจะแย่ แค่เปิดใจให้พร้อมลุย ชีวิตเรามันก็แค่นั้นแหละ เปลี่ยนจากกดชักโครกไปขับถ่ายในรางน้ำเมืองจีนบ้าง แลกมากับธรรมชาติที่สุดตีน ชีวิตมันก็สนุกดีเหอะ  ถ้าอยากจะลุยก็ตามไปจองตั๋วพร้อมบินได้ที่ www.airasia.com ถ้าเพื่อนถามว่าทริปหน้าไปไหน บอกเพื่อนไปแรงๆ #ทริปหน้าไปจิ่วจ้ายโกวกับแอร์เอเชียโว้ยยย

อีกที่เที่ยวของจีนที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก คนน้อยมาก แต่สวยมาก อ่านเลยจ้าที่รัก >>  ชมภูเขาสีรุ้ง ขี่จามรี กินเนื้อแพะ แวะชิลสวิตเซอร์แลนด์แดนมังกรcover-china3

ส่วนเราคงได้ไปจีนอีกหลายหลายรอบแน่แน่
เจอกันที่จีนค่ะ 🙂 Jiuzhaigou - China-IMG_8380-2

Comments

One response to “Jiuzhaigou | ใบไม้เปลี่ยนสี จิ่วจ้ายโกว ( ฉบับ แบกเป้เที่ยว )”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *