เที่ยวญี่ปุ่นทั้งที มีหรือจะไม่มาจัดซูชิเด็ดๆ แต่พวกร้านดังๆ sushi dai , Midori sushi ที่เค้าเล่าลือกันถึงความอร่อยก็แถวยาวซะเหลือเกิน จนเกินจะรอ ยิ่ง sushi dai เนี่ยรอกันที 4 ชั่วโมง เสียเวลาเที่ยวไปเป็นวัน ( เอาจริงก็เคยไปรอมาเหมือนกัน ฮาาาาา รอไป 5 ชั่วโมง กินเสร็จหมดวัน กลับโรงแรมนอน พร้อมต้องบำบัดร่างกายเพราะยืนรอจนเมื่อย) ตามเรามามุงร้าน shuutoku 2 (秀徳 2号店) ร้านลับในตลาดปลา Tsukiji สถานที่ยอดฮิตของคนไทย รวมทั้งเราเอง เพราะมีอาหารละลานตามากกกกกกกก เห็นร้านไหนก็น่ากินไปหมด บอกเลยร้านนี้เด็ด ไม่ต้องรอคิว เสพสุนทรีย์ของรสอาหารได้อย่างเต็มที่ ทานข้าวให้อิ่มก่อนอ่าน ไม่งั้นหิว ท้องร้องแน่แน่
shuutoku 2 (秀徳 2号店) ร้านลับในตลาดปลา Tsukiji บอกเลยคนไทยไม่เคยได้ยินชื่อร้านนี้แน่แน่ ขนาดรีวิวใน google ยังมีอยู่แค่ 2 -3 รีวิว เป็นรีวิวของฝรั่งที่เดินหลงไป ( ฮาา ) ร้านนี้เราตามรอยรุ่นน้องที่เรียนและทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น เห็นนางโพสรูปแล้วตายยย น่ากินจัง เลยขอพิกัดมา แล้วก็เลยได้มีโอกาสนี้ ร้านนี้ไม่ต้องต่อคิว ไม่ต้องโทรจอง ก็กินได้ เราเลยตื่นสายๆ นอนให้อิ่ม แล้วไปกินแบบสบายๆ เป็นครั้งแรกที่มาตลาดปลาตอนเที่ยง คนเยอะจนแทรกตัวไม่อยู่ ( ปกติมาเช้าตลอด ) บอกเลยแค่เดินไปหลังตลาดนิดนึงโลกก็เปลี่ยน เดินผ่านคนแน่นๆไปเรื่อยๆก็เจอหน้าร้านและรีบพุ่งตัวเข้าไปอย่างไว

ร้านเดินเลยตลาดปลาที่คนเยอะๆมาหน่อย อยู่หลังตลาดเป็นซอยเล็ก หน้าร้านเล็กๆ เหมือนเพชรที่ซ่อนอยู่ ให้เมียงมองหาป้าย “The Edomae Style Sushi” ถ้าเจอป้ายนี่ก็ใช่แน่จ้า เห็นประตูปิดๆ ไม่ต้องกังวลเปิดเข้าไปเลยขุมทรัพย์รออยู่ข้างใน
เปิดเข้าไปก็จะเจอบรรยากาศร้านแบบเรียลมาก เป็นร้านแบบญี่ปุ่นจริงๆ ไม่มีการตกแต่งอะไรมากนะ เป็นบาร์ที่สามารถนั่งดูเซฟปั้นซูชิ และพูดคุยกับเซฟได้เลย ( แต่เซฟพูดอังกฤษไม่ได้ เลยทำได้แค่ ยิ้มสยามและงูปลาใส่กัน )
เข้ามาแล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาถามก่อนว่าจองมาใหม่ มากี่ท่าน และเชิญนั่งค่ะ ( พูดภาษาอังกฤษได้) มีที่วางกระเป๋าใต้เก้าอี้ และที่แขวนเสื้อหนาว ด้านหลังพร้อมไม้แขวนเสื้อให้ ( เหมือนกับร้าน Sushi dai ) นั่งเรียบร้อยฮีก็จะเอาเมนูมาให้ พร้อมแนะนำ ที่นี่จะเป็นร้านแบบ okamase คือซูชิตามใจเซฟ เซฟจะจัดอะไรมาให้เราก็ได้ เธอมีหน้าที่ทานอย่างเดียว ขอให้เชื่อใจเซฟเถ่อะค่าา ชั้นจะจัดสิ่งที่ดีที่สุดให้เธอแหละ 🙂 โดย okamese จะมี 3 ราคา 4,200 / 6,000 / 8,000 JPY เลือกสรรค์ตามแต่ตกลง ตอนแรกที่อ่านรีวิวไปเค้าบอกว่ามี set 2,700, 4,000 ,6,000 + เราก็ต้องใจแล้วว่า 4,000 น่าจะคู่ควร เข้าไปถึงปั๊ป เหมือนโดนป้ายยา อิลุงบอกว่าเอ้ยย !! set นี้นะเราแนะนำเธอ แดกอันนี้เถ่อะ อิชั้นก็เมาเมาเออออตามลุงไป เอา set 6,000 JPY ฮ๋าๆๆ แต่ละ set จะมี 10 คำนะจ้ะ เพราะฉะนั้นตอนสั่งตั้งสติดีดีนะคะว่าเอาชุดไหน ตามแต่ความชอบและงบประมาณเลยจ้า

ความน่ารักของที่นี่คือเนืองจากคนไม่เยอะ เซฟมีเวลาในการเมาส์มอย พูดคุยกับลูกค้าและเรามีเวลาได้เต็มที่กับซูชิแต่ละคำ คือการกินที่ดีมันไม่ควรรีบป่ะ ตอนไปกิน sushi dai นี่จะนั่งชิลนานก็ไม่ได้ เพราะว่าหันไปที่ประตูทีไรเห็นสายตาของการรอคิวแล้วใจมันไม่ดีเลยค่า คิดถึงตัวเองตอนรอ มาที่นี่ก็เลยชิลๆ ถ่ายรูปได้ตามสบาย จนเซฟแบบ เธอถ่ายทำไมมากมาย ฮ๋าๆๆ คนไทยชอบถ่ายรูปอาหารกันเหรอ ถ่ายจนป้าญี่ปุ่นข้างๆ ต้องถ่ายซูชิทุกคำของเธอตามน่ะ ฮ๋าๆ ( ผู้นำทางด้านการถ่ายภาพอาหารก่อนแดก ชั้นเองงงจ้า )

Appetizer
จิบชารอไปสักพัก เซฟก็เสริ์ฟไข่หวานมาเรียกน้ำย่อย เราไม่ใช่สายไข่หวานเท่าไหร่ อันนี้ก็เฉยๆ ชอบไข่หวานที่ขายหน้าตลาดปลามากกว่า แต่ก็กินได้สบายๆ เพราะเป็นไข่หวานที่ไม่หวาน
คำที่ 1
เอาจริงฟังเซฟไม่ออกว่านี่คือปลาอะไร แต่แบบได้ยินประมาณว่า โดตอนบุริ แต่เดี๋ยวเหมือนมันไม่ใช่ชื่อปลา พยายามถามละสุดท้ายคุยกันไม่รู้เรื่องจ้าาา แต่คือละมุลลลมากกก ที่นี่เป็นซูชิแบบข้าวเล็กๆ แล้วปลาใหญ่ๆ เราชอบมากไม่ตัดกำลัง และข้าวไม่ใช่ข้าวปกติทั่วไปจ้า แต่เป็นข้าวที่ปรุงรสมาแล้ว สังเกตุว่าข้าวร้านนี้จะเป็นข้าวสีน้ำตาลแก๊ นางปรุงรสมาแล้ว เพราะฉะนั้นตอนทานนี้ไม่ต้องจิ้มอะไรทั้งสิ้น ข้าวแบบนี้เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน หาทานที่อื่นไม่ได้จ้า
คำที่ 2
คำนี้ก็ไม่รู้ค่าว่าคืออะไร เป็นปลาที่ผ่านการเบิร์นมาหน่อยๆ หอมละมุนมากมาก กินแล้วได้กลิ่นหอมขึ้นจมูก เหมือนซ่อนอะไรไว้ข้างใน โอ่ยโอ่ยยยยย ดีจ้า
คำที่ 3
ปกติไม่ชอบเมนูนี้ คือมันแข็งๆ ตอนแรกแอบเสียใจ เพราะเค้าถามแล้วว่ามีอะไรที่ยูไม่กินมั้ย ชั้นตอบว่าไม่จ้า แดกทุกอย่างเลย แต่พอกินแล้วไม่เสียใจเลยจ้า นิ่มแตกต่างจากที่เคยกินมาก และมีความเปรี้ยวหน่อยๆ ไม่แน่ใจว่ามาจากเลมอน หรืออะไร แต่คือพอมารวมกันปลานี้ เริ่ดเวอร์
คำที่ 4
เอ้ากินไปแทบจะกลืนลงคอ เพราะว่าปลาหมึกมันนุ่มลื่นมา อันนี้เห็นแว่บๆเชฟบีบเลมอนโปะลงมาข้างบน รสนวลละลอมากเบย ตอนกินต้องระวังเพราะมันจะลื่นลงคอไปเลย ต้องให้ลิ้นสัมผัสรสนิดนึงน๊า ( กลัวไม่คุ้มไงก็อมอมไว้ก่อน )
คำที่ 5 หอย
หอยมาแล้ว กรุบกรอบ อย่อย แต่ไม่ใช่เมนูที่เราปลื้มเท่านั้นเอง สาวกหอยน่าจะชอบ 🙂
คำที่ 6 chutoro
คำนี้ภาพเหมือนคำแรกเลยแก๊ แยกไม่ออก แต่รสชาติต่างกันหน่อย อันนี้ดีกว่า ลื่นละลายไปเลย ฮือออ ทำไงดีในปากอบอวลด้วยความอร่อย
คำที่ 7
คำแห่งการรอคอย ซูชิเนื้อ + ไข่หอยเม่น เป็นการคอมไบท์ที่รวมกันได้แบบเหนือจินตนาการ เนื้อนุ่มๆ กริลมาแบบมีเดียม หอมมาก กับ uni สดสด รสชาติผสมกันแล้ว เอ้ยยยเมิงงงง ทำไมอร่อยได้ขนาดนี้ยะ
คำที่ 8
คำนี้ก็ดีย์ค่าาา กุ้งหวานๆ ไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และไม่ได้เหนือมาตรฐานอะไร อีกสิบคำก็กินไหวอ่ะแก๊
คำที่ 9
มาถึงคำที่ 9 เป็นคำที่ทำให้เราตามมาถึงร้านนี้ เพราะรูปของรุ่นน้อง กับซูชิไข่หอยเม่นนน อร่อยมาก มันสดมาก เอาจริงไข่หอยเม่นเราไม่เห็นเซฟจะปรุงอะไรใส่เข้าไปเลยนะ นี่พยายามส่องแล้ว แค่หยิบมาจากกล่อง แล้ววงบนข้าวแล้วก็เสริฟมาให้เราเลยอ่ะ แต่ทำไมรสมันแบบตายไปเลย อร่อยชิปหาย แค่เห็น
คำที่ 10
ปกติชอบปลาไหลมาก แต่อันนี้เฉยๆ เพราะว่าเนื้อปลายังมีเสี้ยนๆ และมีก้างอยู่เบย ไม่ค่อยละมุนเท่าไหร่ ฮ่า แต่รสชาติความหอม นี่โอเคเลย
จบปิ๊ง ด้วยโรลอิคุระ เป็นอันจบพิธี เป็นโรลที่ ikura แน่นมากก เซฟใส่ให้เกือบครึ่งโคน กัดลงไปตรงไหนก็โดนอิคุระ ไข่ปลาแซลม่อนจ๋า แตกแปะแปะในปาก ชุ่มฉ่ำมากเลย ซดด้วยมิโสะซุปร้อนๆ อิ่มมาก แต่อยากกินอีก ( งงมั้ย อิ่ม แต่อยากกินอีก )
เวลาให้บริการ
– ช่วงเที่ยง 11:00~15:00 ( Last order 14.30 )
– ช่วงเย็น 17:00~23:00 ( Last order 22.00 )
TEL : 03-5565-3511 (+81-3-5565-3511) ( กรณีไปหลายคนโทรไปจองก่อนก็ดีค่า โทรศัพย์สาธารณะญี่ปุ่นใช้ไม่ยาก หยอดเหรียญกดเลขเหมือนเมืองไทยเลย )
Tabelog : Top 5,000 คะแนนรีวิว 3.65 >> Tabelog
การเดินทาง : นั่ง subway ลงสถานี Tsukijishhijo เดินไกล้สุด ~400 เมตร / หรือลงสถานี Tsukiji ก็ได้ค่ะเดินไกลกว่าหน่อยนึงแล้วเดินไปตาม click>> พิกัดนี้ google map โลดจ้า แปปเดียวถึง
( จริงๆร้านมีหลายสาขา แต่เราแนะนำที่นี่เดินไม่ไกล และได้นั่งบาร์แบบที่ใกล้ชิดกับเซฟเลย)
เพิ่มเติมรีวิวของฝรั่งที่เราอ่าน >> คลิก
อิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งใจ 🙂 ร้านนี้จะเป็นลิสอันดับหนึ่งร้านที่ต้องไปกินทุกครั้งที่มาโตเกียวของเราแน่แน่
ใครไปโตเกียวลองไปทานดูนะคะ เป็นอีกร้านทางเลือกที่อยากให้ไปลองจริงๆ
อดใจรอไม่ไหวแล้วววว 🙂
Leave a Reply