จะมีกี่อย่างที่ทำให้เราตกหลุมรักคนคนเดิมได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทริปนีเราจะพาไปตกหลุมรักเรื่องเดิมๆ fuji- onsen – ski มีเวลาน้อยแค่ 3 วัน แต่ได้เที่ยวครบงบไม่บานปลาย เชื่อเถอะว่าเราสามารถรักเรื่องเดิมๆได้ไม่เปลี่ยนแปลง ออนเซ็น ซูชิ เนื้อ และฟูจิ สามสี่อย่างที่ทำให้เราอยากมาญี่ปุ่น มากี่ทีก็มีแค่นี้แหละเหมือนว่าจะเหมือนเดิมนะ เหมือนจะเหมือนเดิม แต่ก็นั่นแหละไม่เคยมีครั้งไหนที่เหมือนเดิมสักที เหมือนทุกที่ที่เคยไป ปกติเราจะชอบเที่ยวแนวแอดเจอร์หน่อย กันดารกันดาร น้ำไฟไม่มี คมนาคมลำบาก พูดกับใครไม่รู้เรื่อง มันรู้สึกสาแก่ใจดี จะไม่ถนัดประเทศที่เรียบร้อยสะดวกสบายสักเท่าไหร่ ยกเว้นญี่ปุ่นนี่แหละ ที่ตกหลุมรักนางมากเพราะ
“ออนเซ็น –ซูชิ / เนื้อ – ฟูจิ”
และมนุษย์ญี่ปุ่น น่ารักมากกกกมากกกก คิดว่าหลายๆคนก็เป็นเหมือนกัน ญี่ปุ่นครั้งที่สามของเราเปลี่ยนไปนิดหน่อยจาก ออนเซ็น ซูชิ / เนื้อ ฟูจิ มาเป็น
“onsen – ski / snow – fuji mountain”
การ unplan จากซากุระของเราทำให้เราเปลี่ยนใจไปหาหิมะ เราเดินทางช่วง 25 -31 มีนาคม เป็นปลายหนาวต้น spring ยังมีหิมะหลงเหลืออยู่ เด็กหนีร้อนอย่างเราเลยเปลี่ยนแพลนไปหาที่หนาวกว่า ( ทั้งที่โตเกียวก็หนาวจนตัวลอกล๊าววว ) เนื่องจากเราจองโรงแรมไปหมดแล้ว เราเลยต้องยึดโตเกียวเป็นเมืองหลักและเดินทางแบบเช้าไปกลับเอา ตัวเลือกสำหรับการเดินทางของเราก็คือ JR Wide PASS ใช้ได้ 3 วัน ราคา 10,000 JPY คำนวนณจากสถานที่ที่อยากไปแล้วคุ้มเวอร์ค่ะ เลยกลายมาเป็นทริป ชมฟูจิ แช่ออนเซ็น เล่นสกี สวัสดีหิมะ ด้วยบัตร JR Tokyo Wide Pass มีเวลาน้อยแค่ 3 วัน แต่ได้เที่ยวครบงบไม่บานปลาย
** หมายเหตุ JR Wide PASS สามารถหาซื้อได้ที่ สนามบิน / สถานทีรถไฟ JR หลักๆ Uneo / shinjuku / Tokyo / Shibuya มีหมดจ้าาา ซื้อในญี่ปุ่นก็ได้ค่ะ เจ้าหน้าที่แนะนำอย่างดี ซื้อเสร็จ เดินทางได้เลย สะดวกมากๆสำหรับเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ได้หลายที่ เช่น Mt. Fuji, Izu,Karuizawa,Nikko,Gala Yuzawa และยังใช้ได้กับ shinkansen (บางเส้นทาง),รถไฟที่ให้บริการโดย JR รวมไปถึง Narita Express ที่ใช้เดินทางระหว่างโตเกียวและสนามบินนาริตะด้วย
ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.jreast.co.jp/e/tokyowidepass/
001 : ชมฟูจิ
ฟูจิซัง เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องมาเมื่อมาญี่ปุ่น เราเองเป็นคนชอบภูเขามาก ปีนเขามานักต่อนักเพื่อไปเจอความสวยงามของเขาแต่ละลูก แต่ที่นี่ไม่ต้องใชความพยายามอะไรเลย แต่ก็ได้เจอความงามแบบตะลึง ตึง ตึง ( ถึงใบไม้ไม่เปลี่ยนสี หรือไม่มีซากุระ เราก็ขอรับประกันว่าที่นี่สวยทั้งปี สวยทุกวัน ไปญี่ปุ่นแล้วขอให้ไปเถอะ มันเป็นแลนด์มาร์คที่ทรงพลังมากจริงๆ)
Kawaguchiko Lake
คนทั่วไปนิยมเดินทางไปชมฟูจิกันที่ Kawaguchiko Lake หรือ Saiko Lake แน่ล่ะสองที่นี่ทั้งสวยและมีสเน่ห์มากๆ แต่เราอยากแนะนำอีกที่ที่สามารถชมฟูจิใหญ่ๆ และเงียบสงบ สวยงามมมมมมมมมมมมมม ( ม.ม้า ล้านตัว)นั่นก็คือ Yamanaka Lake
Yamanaka Lake
Yamanaka Lake เป็นทะเลสาปที่ใหญ่ที่สุดในทะเลสาปทั้ง 5 ของ Fuji ใหญ่สุดแต่สงบที่สุด เป็นทะเลสาปที่สามารถเห็นฟูจิสะท้อนน้ำได้สวยที่สุดค่ะ ( แต่เราตื่นช้าไปหน่อย เลยอดเห็น) แนะนำไปช่วงเช้าจะดีที่สุด แต่ถ้าไม่อยากเช้ามาก ไปเวลาที่สะดวกแบบเราก็ยังสวยมากอยู่ดีค่ะ ยังไงทุกเวลามีความสวยงามในตัวเองทั้งนั้น เอาเราสะดวกดีสุด
ที่นี่ส่วนใหญ่จะนิยมมาเล่นกิจกรรมกลางแจ้งกันค่ะ พายเรือ ตกปลา สกีน้ำ วินเซิร์ฟ และอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงการตั้งแคมป์ ตีเทนนิส ไปเจอสนามเทนนิสริมทะเลสาปมา กรี๊ดลั่นเลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะรักการออกกำลังกายอะไรมากนักแต่วิวตรงนี้มันเห็นแล้วตายไปแล้ว ถ้ามีแถวบ้านคงออกมาวิ่งทุกวัน
ส่วนกิจกรรมของเราสำหรับที่นี่ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ วิวสวยๆแบบนี้นั่งมองเก็บความสวยงามเข้าปอดอย่างเดียวก็อิ่มมมมมม มากแล้วค่ะ นั่งชิลนอนชิลไป ดูเป็ดว่ายน้ำ ดูหงส์เล่นน้ำ มีกาแฟดีดีสักแก้ว ก็เพลินมาแล้ว ที่นี่สงบมากนานๆจะเดินเจอนักท่องเที่ยวสักคน ถ่ายรูปได้สบาย สบาย ไม่ต้องแย่งฟูจิกันเลยค่ะ
การเดินทาง ขึ้นรถบัสสาย 52 จาก kawaguchiko station นั่งไปประมาณ 30 นาที ค่าตั๋ว ~ 800 JPY เราก็จะเจอฟูจิวิวล้านนนนนนนนนน ( Taxi ~ 4,000 JPY ) ใครไม่รีบเราแนะนำนั่งบัสชิลๆเลยค่ะ เส้นทางระหว่างรถวิ่งนี่สวยงามไม่แพ้กัน เหมือนที่เขาว่า ระหว่างทางสำคัญไม่แพ้จุดหมาย
002 : แช่ออนเซ็น
Hoshino onsen, Karuizawa
ออนเซ็นเป็นกิจกรรมที่เราชอบมากมาก บอกไม่ได้ว่ามันสบายยังไง เราเคยแช่ออนเซ็นที่เรียวกังมาแล้ว บ่อออนเซ็นส่วนตัวก็ให้ความรู้สึกส่วนตัวที่ดีมากมาก รอบนี้อยากลองออกเซ็นสาธารณะบ้าง เอ้ยยย เขิลจัง 🙂 เราเลือก hoshin onsen ที่ karuizawa ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศของญี่ปุ่น
hoshino onsen เป็นออนเซ็นที่เรียบแต่โก้ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ
การเตรียมตัว ในการแช่ออนเซ็นสาธารณะ จริงๆเราว่าไม่ต้องเตรียมอะไรมากหรอก เอาแค่เตรียมใจไปก็พอ ฮ่าๆ สาวใสวัยคะนองต้องมาแก้ผ้าแช่น้ำกับคนแปลกหน้า บ้าเหรอ !!! ตอนแรกทำเขิลแหละ แต่ทำไมพอแช่แล้วมันดีจังวะ ตอนแรกๆเราก็เหนียมๆหนีบๆไปแหละ แต่พอสักพักเริ่มชิน เราก็สามารถแช่ปกติได้เหมือนบ่อส่วนตัว เม้ามอยกับคนญี่ปุ่น เค้าค่อนข้างแปลกใจที่มีคนต่างชาติมาแช่ที่นี่ เพราะส่วนใหญ่ เกือบ 100% แล้วมีแต่คนญี่ปุ่น การเป็นคนแปลกหน้าคนเดียวในที่นั้น ก็ดีมากเหมือนกันแฮะ ทุกคนมาช่วยแนะนำเรา ในสภาวะชีเปลือย
คุณป้าคนญี่ปุ่นบอกว่าเราที่นี่เป็นน้ำที่บริสุทธิ์มากมาก คอนโดป้าก็มีบ่อออนเซ็นส่วนตัว แต่ชอบมาแช่ที่นี่มากกว่า น้ำบริสุทธิ์กว่า นี่ก็ไม่รู้ว่าจริงขนาดไหน แต่ออกมาปั๊ป ตัวเบา อาหารปวดหลังจากกการแบกเป้แบคแพค 15 กก. หายไปเมื่อไหร่
รอบหน้าขอเตรียมใจอีกนิด จะลองไปแช่บ่อรวม ชาย หญิง เลยเอ๊าาา ++
ค่าบริการ 1,300 JPY เท่านั้น 🙂 แช่นานเท่าไหร่ก็ได้เลยค่ะ แต่แช่มากมากจะปวดหัวน๊า เราใช้วิธีการแช่แล้วพัก แช่แล้วพัก แล้วกลับมาแช่ใหม่ หลังแช่ตัวเบามากมาก
( มีบริการให้เช่าผ้าเช็ดตัวด้วยค่ะ แต่จำราคาไม่ได้ ~300 JPY ค่ะ )
ไม่มีภาพด้านในมาให้ดูนะคะ ไม่สามารถถ่ายภาพมาฝากได้จริงๆ เก็บภาพบริเวณรอบข้างมาฝากแทนค่ะ
บริเวณด้านนอกมีร้านกาแฟให้มานั่งรีแลคหลังจากแช่ออนเซ็นด้วยค่ะ กาแฟร้อนๆ ในบรรยากาศอากาศหนาวๆ นี่ดีไม่หยอกเลยค่ะ
การเดินทาง
นั่ง jr ลงสถานี kyu-karuizawa เดินออกมาลงบันใดทางซ้ายมือเพื่อไปขึ้นรถบัส มีบริการฟรีค่ะ ใช้เวลาเดินทาง ~20นาที รถออกทุกครึ่งชั่วโมง มีเอาเลท์ที่ใหญ่มากมาก และมีลานสกีให้เล่นด้วยค่ะ เล่นสกีเสร็จ ชอปปิ้งจนเมื่อยก็แวะไปแช่ออนเซ็นได้ ออกมาตัวเบาเลยค่ะ
003 – เล่นสกี สวัสดีหิมะ
GALA YUZAWA
สกีรีสอร์ทที่ใกล้โตเกียวมากที่สุด เดินทางไปง่ายมากนั่งชิงกันเซนจากโตเกียวต่อเดียวไปถึงเลย ถ้าเทียบความง่ายในการเดินทางแล้ว เอาไป 1,000 คะแนน หิมะ สำหรับคนเมืองร้อนแบบเรา ที่เดินออกไปซื้อกระเพราปากซอยก็ต้องกลับมาอาบน้ำใหม่ เจอหิมะทีไรก็ตื่นเต้นทุกที ชอบก็ชอบ ( แต่ขอลมอย่าแรงเลย พี่หนาวววววววว) ที่นี่ยังมีคนไปไม่เยอะมาก การันตีว่ามาแล้วเจอหิมะแน่นอน เราเลยครอบครองพื้นที่บนลานสกีและร้านอาหารได้อย่างเต็มที่
หิมะนวลนวล รอเราไปสัมผัส
ใครเล่นหิมะเสร็จแล้วเหนื่อย แนะนำเดินเข้าไปในอาคารค่ะ จะเห็นวิวชัดสวยงาม ขึ้นไปชั้นสองเป็นโซนร้านอาหารค่ะ อาหารเป็นเรทปกติไม่มีการอัพราคาเพิ่มค่ะ นั่งทานอาหารไปชมวิวไป สวยยยยยยยยยยยยยยยยยมากกกกกกกกกก
การเล่นสกี สำหรับคนที่เล่นครั้งแรกจะมีแยกโซนให้ค่ะ โดยจะขึ้นไปไม่สูงมาก เพื่อให้ฝึกร่างกายก่อน
จะนั่งร้านอาหารชมวิว เล่นสกีให้ตัวเปียก นั่งเล่นบนหิมะ กินไอศครีม เราว่าที่นี่เหมาะสมในการพักผ่อนมากมากเลย เล่นสกีเสร็จ ไปเดินเล่นชมเมืองได้ต่ออีก บ้านและบรรยากาศแถวนั้นเราว่ามันดีมากเลย
การเดินทางไป Gala Yuzawa
จากสถานี Tokyo นั่ง Joetsu Shinkansen (Toki, Max Toki, Tanigawa และ Max Tanigawa) ไปลงที่สถานี GALA Yuzawa ใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาที (วิ่งตรงไม่ต้องเปลี่ยนขบวน) รถไฟสายนี้จะจอดที่สถานี GALA Yuzawa ในช่วงที่สกีรีสอร์ทเปิดให้บริการเท่านั้น (20 ธันวาคม – 6 พฤษภาคม) ราคาตั๋วรถไฟแบบระบุที่นั่ง ไป-กลับ คนละ 14,180 เยน ค่ะ ( แต่เราใช้ JR Wide pass แค่วันเดียวก็เกินคุ้มมมมแล้ววว )
ข้อมูลเพิ่มเติม
หลังจากลงรถไฟ Shinkansen เราจะอยู่ในอาคาร 3 ชั้น (พื้นที่สีฟ้าในรูปด้านบน) ที่เป็นทั้งสถานีรถไฟ GALA Yuzawa และ Ski Center ในแต่ละชั้นจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกดังนี้ค่ะ
ชั้นที่ 1 : สถานีรถไฟ GALA Yuzawa (Joetsu Shinkansen), สถานีรถบัส
ชั้นที่ 2 : ทางเข้าสถานีรถไฟ GALA Yuzawa, Information, ร้านขายของใช้ – ของที่ระลึก, ร้านอาหาร, ร้านเช่าอุปกรณ์สกี, Locker, สถานีกอนโดล่า (Gondola Diligence Station)
ชั้น 3 : SPA GALA-NO-YU, ห้อง Locker, ร้านเช่าอุปกรณ์สกี
หมายเหตุ เผื่อเวลาไปเดินเล่น Echigo Yuzawa เป็นหมู่บ้านที่น่ารักมากค่ะ สถานีอยู่ก่อนถึง GALA Yuzawa เล่นสกีเสร็จ จะนั่งรถไฟกลับมา 1 สถานี หรือลงลิฟไปชั้นหนึ่ง นั่งบัสมาประมาณ 10 นาที ชมวิวเปลี่ยนบรรยากาศก็ไ้ด้ค่ะ ( บริการฟรี)
ใครที่เดินทางมาด้วย JR TOKYO Wide Pass จะมีส่วนลดด้วย มี 3 แบบให้เลือก เราอยากสบายๆ เลือกแบบแรก จะรวมค่าเช่า รองเท้า ถุงมือ กระเช้า
ขั้นตอนการขึ้นลานสกี
1. โชว์ JR Wide Pass ตอนซื้อตั๋วเพื่อรับส่วนลด
2.เราเลือกแบบที่ 2 จะได้ตั๋วมาละ 3 ใบค่ะ จะมีตั๋วสำหรับเช่าอุปกรณ์ และตั๋วขึ้น -ลง กระเช้า Gondola อย่างละใบ
3.กรอกเอกสารสำหรับการเช่า รองเท้า ถุงมือ และกระดานเลื่อน ( แบบฟอร์มสีน้ำตาล สำหรับคนไทย เป็นภาษาไทยเลยจ้า ) ระบุข้อมูลส่วนตัว และขนาดเท้าค่ะ ( ขนาดเท้าระบุเป็น ซม.น๊าา) 1 กลุ่ม กรอกอันเดียวแล้วระบุจำนวนไปเลยค่ะ
4.ยื่นแบบฟอร์มที่กรอกพร้อมพาสฟอร์ตให้เจ้าหน้าที่
5. ได้รับรองเท้า + ถุงมือ และบัตรสำหรับแลกลางเลื่อนค่ะ ( บัตรรางเลื่อน รับข้างบนค่ะ)
5 ขั้นตอนนี้ ก็พร้อมขึ้นไปลุยบนลานสกีแล้วค่ะ
หมายเหตุ ที่ลอคเกอร์สำหรับฝากกระเป๋า และ กรณีรองเท้าใหญ่ไป สามารถเปลี่ยนได้ค่ะ ใครเอาเสื้อหนาวมาไม่พอ มีบริการให้เช่าเพิ่มเติมด้วยเลยครบถ้วน
เราไม่เน้นเที่ยวให้ครบ แต่เน้นเที่ยวให้เต็มที่ในสิ่งที่อยากไป ชอบตรงไหนก็อยู่อย่างนั้น
หลังจากใช้ wide pass ครบสามวันแล้ว ใครยังมีเวลาเหลือ แนะนำตั๋ว metro เที่ยวรอบโตเกียว ใครมีเวลาน้อยก็จัดสรรให้เหมาะสมให้ถูกจริตของตัวเอง ให้เหมาะสมกับงบที่มี และให้มีความสุขในการเดินทางในแบบของตัวเอง
การเดินทางในเส้นทางเดิม หรือเส้นทางใหม่ สนุกเสมอ เรามักได้เพื่อนใหม่ ได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ และโตขึ้นทุกครั้งหลังเดินทาง บางทีการเดินทางของเราก็แค่มานั่งดูเม็ดฝน ก็มีความสุขแล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติม : ตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินโตเกียว(Tokyo Subway Ticket) สามารถนั่งรถไฟใต้ดินได้โดยไม่จำกัดทั้งของ Toei และ Tokyo Metro รวม 13 สาย โดยต้องใช้ติดต่อกัน 1-3 วัน(ดูวันหมดอายุบนบัตร) สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินทั้ง 13 สายของบริษัท Tokyo Metro และ Toei เราว่าครอบคลุมสถานที่สำคัญๆ ทั้งหมดในโตเกียวเลยล่ะ สำหรับคนขี้หลงอย่างเราเหมาะสมมาก เพราะขึ้นลงกี่เที่ยวก็ได้ภายในเวลาของบัตร นับเป็นชั่วโมงด้วยคุ้มค่าค่ะ
หมายเหตุ: ที่สนามบินฮาเนดะและสนามบินนาริตะ จำหน่ายให้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ถือวีซ่าท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งต้องแสดงพาสปอร์ตก่อนซื้อ ส่วนที่สนามบินโยนาโกะ จำหน่ายให้แก่ผู้โดยสารเฉพาะสายการบินเท่านั้น กรณีไม่ได้เปิดใช้ สามารถมาเปลี่ยนคืนได้ โดยจะมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยค่ะ ใครลืมซื้อสามารถซื้อได้ตามร้าน Big camera หรือ โรงแรมใหญ่ๆค่ะ
พิเศษ : จองที่พักผ่าน Booking.com รับส่วนลด 550 บาท กรณียอดจองครบ 2,000 บาท > จองผ่านลิงค์นี้รับส่วนลด 550 บาท/booking
จองโรงแรมอะไรก็ได้ ได้รับส่วนลดคืนทางบัตรเครดิต หลังจากการเข้าพัก ~ 30 – 60 วัน !! ใช้ได้user ละ 1 ครั้งนะคะ ถ้าไปหลายคนให้แยกกันจองคนละ booking !! ใช้ได้ user ละ 1 ครั้งนะคะ ถ้าไปหลายคนให้แยกกันจองคนละ booking !!
อยากเจอเธอไปเรื่อยๆนะญี่ปุ่น 🙂
Leave a Reply